SpaceX ประสบความสำเร็จในการทดสอบจรวด Falcon Heavy ส่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Tesla Roadster ไปดาวอังคาร
จรวด Falcon Heavy ทะยานขึ้นสู่อวกาศเมื่อเวลาประมาณ 03:45 นาฬิกาของวันที่ 7 กุมภาพันธ์ตามเวลาของประเทศไทย การทดสอบในครั้งนี้จรวด Falcon Heavy บรรทุกรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Tesla Roadster พร้อมหุ่นย์จำลองนักบินอวกาศชื่อ Starman เพื่อเดินทางไปดาวอังคาร ภารกิจนี้ไม่มีการลงจอดบนดาวอังคารแต่จะเป็นการโคจรเข้าใกล้ดาวอังคารและรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Tesla Roadster คันนี้จะยังคงอยู่ในอวกาศไปอีกพันล้านปีแม้ว่าอารยธรรมมนุษย์จะสูญสิ้นไปแล้วก็ตาม
Falcon Heavy จรวดที่ทรงพลังที่สุดในโลก
จรวด Falcon Heavy จรวดที่ทรงพลังที่สุดในโลกนับจากจรวด Saturn V จรวด Falcon Heavy ประกอบขึ้นโดยการใช้ท่อนจรวด Falcon 9 จำนวน 3 ท่อนทำงานร่วมกัน แบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วน คือ First Stage ประกอบด้วยจรวด Falcon 9 จำนวน 3 ท่อน ใช้เครื่องยนต์จรวด Merlin Engines รวมทั้งหมด 27 เครื่องและส่วน Second Stage ซึ่งใช้เครื่องยนต์จรวด Merlin Engines จำนวน 1 เครื่องทำหน้าที่ผลักดันส่วนบรรทุกสัมภาระที่เรียกว่า Payloads
จรวด Falcon Heavy สามารถสร้างแรงยกขนส่งสัมภาระน้้ำหนัก 64,000 กิโลกรัมขึ้นสู่อวกาศถือเป็นจรวดที่ทรงพลังมากที่สุดในโลกในขณะนี้ จนกว่าบริษัท SpaceX จะพัฒนาจรวด BFR ได้สำเร็จ รวมไปถึงจรวด SLS ของนาซ่าที่อยุ่ในระหว่างการพัฒนา จุดเด่นของจรวด Falcon Heavy คือ จรวดทั้ง 3 ท่อนสามารถเดินทางกลับโลกเพื่อใช้งานซ้ำได้ใหม่ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ต้นทุนการส่งจรวด Falcon Heavy ในแต่ละครั้งมีราคาที่ถูกว่าบริษัทคู่แข่งอื่น ๆ
คลิปการทดสอบจรวด Falcon Heavy
Falcon Heavy ทะยานขึ้นสู่อวกาศ
จรวด Falcon Heavy ได้ทะยานขึ้นจากฐานจรวด LC-39A ศูนย์อวกาศจอห์น เอฟ.เคนเนดี ประเทศสหรัฐอเมริกาท่ามกลางผู้ชมหลายหมื่นคนรอบบริเวณศูนย์อวกาศจอห์น เอฟ.เคนเนดีและผู้ชมอีกหลายล้านคนที่ชมการถ่ายทอดสดผ่านทางสื่อต่าง ๆ ทั่วโลก หลังจากภารกิจทดสอบจรวด Falcon Heavy ถูกเลื่อนมาหลายครั้งตั้งแต่ช่วงปลายปี 2017
เมื่อจรวด Falcon Heavy ทะยานขึ้นสู่ระดับความสูงประมาณ 60 กิโลเมตรเหนือพื้นโลก จรวด 2 ท่อนด้านข้างของ First Stage ได้แยกตัวออกและเดินทางกลับมาลงจอดบนฐานอย่างปลอดภัย ส่วนจรวดท่อนกลางยังทำงานต่อไปจนถึงระดับความสูงประมาณ 90 กิโลเมตรเหนือพื้นโลก จรวดท่อนกลางจึงแยกตัวออกจาก Second Stage เพื่อเดินทางกลับมาลงจอดบนเรือโดรน “Of Course I Still Love You” ที่ลอยลำรออยู่บริเวณมหาสมุทรแอตแลนติกแต่จรวดท่อนกลางได้เกิดเหตุขัดข้องเครื่องยนต์ชะลอความเร็วทำงานเพียง 1 เครื่องทำให้จรวดท่อนกลางตกมาด้วยความเร็ว 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมงกระแทกผิวน้ำมหาสมุทรแอตแลนติกและเรือโดรนก็ได้รับความเสียหายไปด้วย เมื่อจรวดส่วน Second Stage ทะยานขึ้นสู่ความสูงประมาณ 115 กิโลเมตรเหนือพื้นโลกกรอบด้านนอกของส่วนบรรทุกสัมภาระ Payloads ได้เปิดออกพร้อมกับเพลง Life on Mars ของ David Bowie ถูกเปิดขึ้นบนอวกาศ
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า Tesla Roadster ไปดาวอังคาร
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า Tesla Roadster พร้อมหุ่นย์จำลองนักบินอวกาศชื่อ Starman เดินทางต่อไปยังดาวอังคารโดยบริเวรของลำตัวรถบริษัท SpaceX ได้ติดตั้งกล้องวิดีโอเอาไว้เพื่อถ่ายทอดสดกลับมายังโลกสามารถรับชมได้จาก Youtube และ Twitter มองเห็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Tesla Roadster พร้อมหุ่นย์จำลองนักบินอวกาศลอยอยู่กลางอวกาศโดยมีฉากหลังเป็นโลกสีน้ำเงิน
คลิปจากล้องที่ติดกับตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Tesla Roadster
อย่างไรก็ตามอีลอน มัสก์ได้ออกมาเปิดเผยผ่านทาง Twitter ในภายหลังว่าได้เกิดเหตุขัดข้องขึ้นเกี่ยวกับเส้นทางการโคจรไปดาวอังคารของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Tesla Roadster ที่อาจเดินทางเร็วกว่ากำหนดจนเลยจุดนัดพบกับเส้นทางโคจรของดาวอังคาร
อนาคตของจรวด Falcon Heavy
จรวด Falcon Heavy จะถูกใช้งานในภารกิจขนส่งดาวเทียมและมนุษย์อวกาศให้กับบริษัท SpaceX ไปจนกว่าการพัฒนาจรวด BFR จะเสร็จสมบูรณ์โดยลูกค้ารายแรกที่ใช้บริการจรวด Falcon Heavy คือ ดาวเทียม Arabsat 6A ของประเทศซาอุดีอาระเบียที่มีกำหนดส่งขึ้นสู่อวกาศในช่วงกลางปี 2018 และบริษัท SpaceX กำลังอยู่ในระหว่างทบทวนภารกิจใช้จรวด Falcon Heavy ส่งนักบินอวกาศขึ้นไปกับยาน Dragon 2 ในช่วงต้นปี 2019
ที่มาของข้อมูล
spacex.com