เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2556 Microsoft ได้ประกาศหยุดให้บริการ Windows Live Messenger (MSN) ลงอย่างเป็นทางการ โดยให้ผู้ใช้บริการเปลี่ยนไปใช้ Skype แทนซึ่งสามารถใช้ User และ Password ของ MSN ไปทำการลงชื่อเข้าสู่ระบบของ Skype ได้ สำหรับผู้ที่ทำการอัพเกรดจาก MSN ไปใช้งาน Skype นั้นจะสามารถใช้บริการโทรฟรีของ Skype เป็นเวลา 1 เดือน

MSN เราจะจดจำคุณ

สำหรับ MSN เปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 22 กรกฎาคม 1999 โดยมีชื่อว่า MSN Messenger รองรับการทำงานได้ 50 ภาษา ได้รับความนิยมทั่วโลกภายในระยะเวลาอันรวดเร็วอาจจะเรียกได้ว่าเด็กวัยรุ่นในยุคนั้นน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักโปรแกรมเเชทที่ชื่อ MSN ต่อมาในปี 2012 Microsoft ได้ทำการเปลี่ยนชื่อ MSN เป็น Windows Live Messenger โดยดาวน์โหลดมาพร้อม ๆ กับ Windows Essentials โดยประมาณการกันว่า Windows Live Messenger มีผู้ใช้บริการ 300 ล้านคนทั่วโลก

สำหรับท่านที่ต้องการดาวน์โหลด Windows Live Messenger เก็บไว้ที่เป็นที่ระลึกสามารถดาวน์โหลดได้ที่ windows.microsoft.com

รูปภาพ : Windows Live Messenger

Microsoft เข้าซื้อกิจการ Skype

วันที่ 10 พฤษภาคม Microsoft ได้เข้าซื้อกิจการบริษัท Skype ซึ่งในขณะนั้นเป็นโปรแกรมในกลุ่มของ Video Calling VOIP ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนั้นและในเวลาต่อมา CEO Steve Ballmer ได้ประกาศว่า Microsoft จะหยุดการให้บริการ Windows Live Messenger ในช่วงต้นของปี 2013 และจะย้ายผู้ใช้งานไปอยู่กับ Skype

สำหรับท่านที่ต้องการดาวน์โหลด Skype ไปใช้งานสามารถดาวน์โหลดได้ที่ www.skype.com

รูปภาพ : Skype

ตอนเรียนปี 1 ที่มหาลัยผมได้รู้จักกับโปรแกรมเเชทโปรแกรมหนึ่งชื่อ MSN เจ้าโปรแกรมนี้แหละที่ทำให้ผมพิมพ์สัมผัสโดยไม่ต้องดูคีย์บอร์ด เรียกว่าแชทกันจนนิ้วแทบจะพันกันเลยทีเดียว ในช่วงนั้นเราใช้ MSN กันหลายจุดประสงค์ บางคนเอาไว้จีบสาว บางคนเอาไว้ส่งการบ้าน บางคนเอาไว้ลอกการบ้าน บางคนเอาไว้แกล้งเพื่อนโดยการแกล้ง Add อีเมล์ไปแแชทแต่ไม่ยอมบอกว่าเป็นใคร (อำกันเล่นในหมู่เพื่อนฝูง) หรือ บางคนเอาไว้ระบายอกหัก แอบรัก สารภาพรักและกินแห้ว ตอนเรียนมหาลัยเราใช้ MSN กันในการสื่อสารระหว่างเพื่อนฝูงมากกว่าโปรแกรมใด ๆ (ยุคนั้น Facebook ยังไม่เข้ามาในประเทศไทย)

คงไม่มีคำกล่าวใดเหมาะสมมากกว่าคำว่า “ขอบคุณ MSN ที่ได้สร้างช่วงเวลาดี ๆ ให้กับคู่รักหลายคู่ที่คบกันมาจนถึงทุกวันนี้ รวมถึงความสนิทสนมในหมู่เพื่อนฝูงให้กับใครหลายคน”

ที่มาของข้อมูล
IT24hrs.com, Skype.com